เดิมทีแล้ว MySQL ไม่มีฟังก์ชั่น (Row Number) สำหรับเรียกลำดับที่ (1, 2, 3 …n) ของแถว/เร็คคอร์ดในฐานข้อมูลเหมือนดั่งเช่นเจ้าอื่น ๆ เพราะฉนั้นเหล่านักรบส่วนใหญ่ก็มักสร้างฟังก์ชั่นใส่ลำดับที่แถวเอง

สมมุติเรามีชุดข้อมูลนึงแสดงคะแนนของแต่ละอำเภอ (เอ๊ะ !! คุ้น ๆ ) ตามนี้

CREATE TABLE IF NOT EXISTS `rstanding` (
  `id` int(6) unsigned NOT NULL,
  `name` varchar(20) NOT NULL,
  `score` decimal(10,2) NOT NULL,
  PRIMARY KEY (`id`)
) DEFAULT CHARSET=utf8;
INSERT INTO `rstanding` (`id`, `name`, `score`) VALUES
  ('1', 'A', 98.52),
  ('2', 'B', 97.24),
  ('3', 'C', 96.33),
  ('4', 'E', 96.33),  
  ('5', 'F', 95.02),
  ('6', 'G', 94.88),
  ('7', 'H', 94.88);

การใส่ลำดับที่ของแถวก็จะสร้างฟังก์ชั่นเพื่อนับจำนวนของแถวไปจนสิ้นสุดชุดข้อมูล

SELECT 
    @rownum := @rownum + 1 AS row_number,
    t1.*
FROM rstanding t1, 
(SELECT @rownum := 0) r

จะเห็นได้ว่าคอลัมภ์ row_number เพิ่มขึ้นมาโดยเป็นลำดับที่แถว/เรคคอร์ดนั้น ๆ ในที่นี้เราไม่ได้จัดเรียง (ORDER BY Field [ASC/DESC]) ชุดข้อมูลด้วยคอลัมภ์ใด ๆ

ต่อเนื่องในเรื่องของอันดับ

อันดับ เป็นชื่อของตำแหน่ง ที่มีคำบอกระดับของ ขั้น,ชั้น ที่บ่งบอกถึงความต่างระดับ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากผลงานที่มีการประกวดหรือแข่งขัน

การใส่ลำดับที่โดยการจัดเรียงตามคะแนน (คอลัมภ์ score) จากคะแนนสูงสุดไปหาน้อยสุด

ตัวอย่างวิธีที่ 1 ใช้ฟังก์ชั่นเดิมแต่เพิ่มเติมด้วยการใส่เงื่อนไขเพื่อให้จัดลำดับได้

SELECT 
    @rownum := @rownum + 1 AS row_number,
    @ranknum := IF(t1.score < @score, @ranknum + 1, @ranknum) AS row_ranking,    
    t1.*,
@score := t1.score AS dummy
FROM rstanding t1 , (SELECT @score:=0, @rownum:=0, @ranknum :=1) r
ORDER BY t1.score DESC

ผลลัพธ์การจัดเรียงก็จะได้ตามนี้

จากผลลัพธ์ที่ได้ในวิธีที่ 1 เราสามารถกรองได้ว่าเราสนใจลำดับที่ได้ลำดับอะไรบ้าง เช่นต้องการทราบว่าคนที่ได้ลำดับที่ 3 มีใครบ้างก็สามารถกรองได้จากคอลัมภ์ WHERE row_ranking = ?

SELECT
    t2.*
FROM (
  SELECT 
      @rownum := @rownum + 1 AS row_number,
      @ranknum := IF(t1.score < @score, 		
      @ranknum + 1, @ranknum) AS row_ranking,    
      t1.*,
      @score := t1.score AS dummy
  FROM rstanding t1 , (SELECT @score:=0, @rownum:=0, @ranknum :=1) r
  ORDER BY t1.score DESC
) t2 
WHERE t2.row_ranking = 3

ตัวอย่างวิธีที่ 2 กรณีที่สนใจลำดับที่นั้น ๆ ก็นับจำนวน (แบบไม่ซ้ำ) ในลำดับก่อนหน้า เช่น สนใจลำดับที่ 3 ลำดับก่อนหน้าคือ 2 ลำดับ

SELECT
    t1.*
FROM rstanding t1
WHERE 2 = (SELECT COUNT(DISTINCT t2.score) FROM rstanding t2 WHERE t1.score < t2.score)

ตัวอย่างวิธีที่ 3 หาจำนวน LIMIT LIMIT offset, count;

SELECT
    t1.*
FROM rstanding t1
WHERE t1.score = (SELECT t2.score FROM rstanding t2 ORDER BY t2.score DESC LIMIT 3,1);

ตัวอย่างวิธีที่ 4 ทุกอย่างง่ายขึ้น MySQL เห็นคงเห็นว่าจะทำให้ยุ่งยากไปใยเล่า เรามีฟังก์ชั่นให้ใช้นะ แต่ช้าก่อน มันมีในเวอร์ชั่น 8 เป็นต้นไปนะจ๊ะ เวอร์ชั่นก่อนหน้าก็อด

ROW_NUMBER() Number of current row within its partition
DENSE_RANK() Rank of current row within its partition, without gaps
RANK() Rank of current row within its partition, with gaps

ดูวิธีการใช้งานกันเลย

WITH ranked_score AS (
  SELECT 
      ROW_NUMBER() OVER (ORDER BY score DESC) rownum,
      RANK() OVER (ORDER BY score DESC) row_ranking,
      DENSE_RANK() OVER (ORDER BY score DESC) drow_ranking,
      id,
      name,
      score
  FROM rstanding
)
SELECT * FROM ranked_score; -- WHERE drow_ranking = 3;

ผลลัพธ์กรณีที่เราไม่กรองใด ๆ ก็จะแสดงผลดังนี้

จบปิ๊ง ^_^
#แด่ตัวสำรองอันดับหนึ่ง

ป.ล.

 

Published by Man Friday

Application Developer, Photographer and WordPress aficionado. Particularly interested in relational database design, In usability, UX and accessibility on software development. I just wear glasses, Lives in Ubonratchathani, Thailand.